การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน

77182 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน

อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratios)

 

อัตราส่วนทางการเงิน เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ งบการเงิน

ทำให้เห็นภาพรวมของบริษัท และความสามารถในการทำกำไรในเชิงเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น

     

         เพราะในงบการเงินนั้น ประกอบด้วยข้อมูลมากมาย ยากต่อการตีความ

จึงได้นำเครื่องมือ การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน มาช่วยในการวิเคราะห์

 

มี 4 สูตร ดังนี้

1. การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน (Liquidity Ratio)

2. ความสามารถในการหากำไร (Profitability Ratio)

3. อัตราส่วนแสดงประสิทธิภาพในการทำงาน (Efficiency Ratio)

4. อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน (Leverage Ratio or Financial Ratio)

 

______________________________________________________________________

 

   1.การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน (Liquidity Ratio)

เป็นอัตราส่วนที่เอาไว้ใช้ในการวิเคราะห์สภาพคล่องของกิจการ มีหลายอัตราส่วนย่อยดังนี้

   1.1 อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนหรืออัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio)

   1.2 อัตราส่วนทุนหมุนเวียนเร็ว (Quick Ratio or Acid Test Ratio)

   1.3 อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover) 

   1.4 ระยะเวลาถัวเฉลี่ยในการเรียกเก็บหนี้ (Average Collection Period)

   1.5 อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover)

   1.6 ระยะเวลาในการจำหน่าย (ขาย) สินค้า

 

1.1 อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนหรืออัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio)

 

                                                   สินทรัพย์หมุนเวียน   

                                                                                                         หนี้สินหมุนเวียน           

 

อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (Current Ratio) = สินทรัพย์หมุนเวียน (CA) /หนี้สินหมุนเวียน (CL)
 
ความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น ถ้าค่าที่คำนวณได้สูงเท่าใด แสดงว่า
 
บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนที่ประกอบไปด้วย เงินสด ลูกหนี้ และสินค้าคงเหลือ
 
มากกว่าหนี้ระยะสั้น ทำให้ความคล่องตัวในการชำระหนี้ระยะสั้นมีค่อนข้างมาก
 
โดยปกติ อัตราส่วน 2 : 1 ถือว่าเหมาะสมแล้ว
 
 
1.2 อัตราส่วนทุนหมุนเวียนเร็ว (Quick Ratio or Acid Test Ratio)
 
                                       สินค้าหมุนเวียนรวม - สินค้าคงเหลือ
                                                 หนี้สินหมุนเวียนรวม    
 
 
เป็นการวัดส่วนของสินทรัพย์ที่ได้หักค่าสินค้าคงเหลือ ที่เป็นสินทรัพย์ระยะสั้นและ
 
มีความคล่องตัวในการเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ต่ำสุดออก เพื่อให้ทราบถึงสภาพคล่อง
 
ที่แท้จริงของกิจการได้ โดยปกติอัตราส่วน 1 : 1 ถือว่าเหมาะสมแล้ว
 
 
 
1.3 อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover)
 
 
                                                     ยอดขายเชื่อ
                                                                                                                             ลูกหนี้การค้า
 
 
 
 
หากค่าที่คำนวณได้ มีค่าสูง แสดงถึงความสามารถใน
 
การบริหารลูกหนี้ให้แปลงสภาพเป็นเงินสดได้เร็ว
 
 
1.4 ระยะเวลาถัวเฉลี่ยในการเรียกเก็บหนี้ (Average Collection Period)
 
                                                                     365                     
                                                   อัตราหมุนเวียนของลูกหนี้
 
 
ระยะเวลาถัวเฉลี่ยในการเรียกเก็บหนี้ จำนวนวันยิ่งสั้นยิ่งดี
 
แสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการเรียกเก็บหนี้ว่าสั้นหรือยาว
 
เพื่อให้ทราบถึงคุณภาพของลูกหนี้ ประสิทธิภาพในการเรียกเก็บหนี้
 
 
และนโยบายในการให้สินเชื่อทางธุรกิจ
 
 
1.5 อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover)
 
 
                                                                                          ต้นทุนสินค้าขาย (COGS)        
                                             
                                              สินค้าคงเหลือเฉลี่ย (Avg. Inventory)
 
 
อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover)
 
= ต้นทุนสินค้าขาย (COGS) /สินค้าคงเหลือเฉลี่ย (Avg. Inventory)
 
สินค้าคงเหลือเฉลี่ย =( สินค้าต้นงวด + สินค้าปลายงวด )/ 2
 
หากค่าคำนวณได้สูง ย่อมแสดงถึงความสามารถในการบริหารการขายสินค้าได้เร็ว
 
 
1.6 ระยะเวลาในการจำหน่าย (ขาย) สินค้า
 
 
                                        365                           
       
                   อัตราหมุนเวียนของสินค้า (Inventory Turnover) 
 
 
ระยะเวลาในการจำหน่าย (ขาย) สินค้า(วัน)
 
= 365 (วัน) /อัตราหมุนเวียนของสินค้า (Inventory Turnover)
 
ยิ่งขายได้เร็ว (ระยะเวลาสั้น) ยิ่งดี
 
 
 
2.ความสามารถในการหากำไร (Profitability Ratio)

 เป็นอัตราส่วนที่เอาไว้ใช้ในการวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไรของกิจการ มีหลายอัตราส่วนย่อยดังนี้

2.1 อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)

2.2 อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit Margin)

2.3 อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)

2.4 อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return On Equity or ROE)

 


2.1 อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)

ขายสุทธิ - ต้นทุนขาย หรือ SALES – COGS

             ขายสุทธิ SALES

 

ขายสุทธิ - ต้นทุนขาย หรือ SALES - COGS / ขายสุทธิ SALES

 = กำไรขั้นต้น หรือ Gross Profit /ขายสุทธิ SALES ยิ่งสูงยิ่งดี

 

2.2 อัตรากำไรจากผลการดำเนินงาน (Operating Profit Margin)

กำไรจากการดำเนินงาน(Operating Profit Margin)

                 ขายสุทธิ (SALES)

 
- อัตรากำไรจากผลการดำเนินงาน เป็นอัตราส่วนของกำไรจากผลการดำเนินงาน

 

2.3 อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)

กำไรจากการดำเนินงาน(Operating Profit Margin)

           ขายสุทธิ (SALES) ยิ่งสูงยิ่งดี

 
-กำไรจากการดำเนินงาน(Operating Profit Margin) /ขายสุทธิ (SALES) ยิ่งสูงยิ่งดี

 

2.4 อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return On Equity or ROE)

        กำไรสุทธิ (Net Profit)

      ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity)

 
-ยิ่งสูงยิ่งดี แสดงให้เห็นว่าเงินลงทุนในส่วนของเจ้าของ จะได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาจากการดำเนิน

 การของกิจการนั้นในอัตราส่วนเท่าไร หากมีค่าสูง แสดงถึงประสิทธิภาพในการหากำไรสูงด้วย
 
 
 
3. อัตราส่วนแสดงประสิทธิภาพในการทำงาน (Efficiency Ratio)

3.1 อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (ROA)

                กำไรสุทธิ (Net Profit)     

            สินทรัพย์รวม (Total Assets)

อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (ROA)(%) = กำไรสุทธิ (Net Profit) /สินทรัพย์รวม (Total Assets)

ยิ่งสูงยิ่งดี เป็นการวัดความสามารถในการทำกำไรของสินทรัพย์ทั้งหมดที่ธุรกิจใช้ในการ

ดำเนินงาน ว่าให้ผลตอบแทนจากการดำเนินงานได้มากน้อยเพียงใด หากมีค่าสูง

แสดงถึงการใช้สินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ

 

3.2 อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Turnover)

                      ขายสุทธิ (SALES)        

               สินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset)

อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Turnover)(ครั้ง)

= ขายสุทธิ (SALES) /สินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset) ยิ่งสูงยิ่งดี

 

 

3.3 อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover)

                     ขายสุทธิ (SALES)         

             สินทรัพย์รวม (Total Assets)

 

อัตราส่วนการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover) (ครั้งหรือเท่า)

= ขายสุทธิ (SALES) /สินทรัพย์รวม (Total Assets)

จำนวนครั้งสูงดี เป็นอัตราส่วนที่แสดงถึงประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์ทั้งหมด (TA)

เมื่อเทียบกับยอดขาย (SALES) ถ้าอัตราส่วนนี้ต่ำ แสดงว่า บริษัทมีสินทรัพย์มากเกินความต้องการ

 

 

4. อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน (Leverage Ratio or Financial Ratio)

4.1 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt/Equity Ratio)

              หนี้สินรวม (Total Debt)

             ส่วนของเจ้าของ (Equity)

เพื่อให้ทราบถึงแหล่งที่มาของเงินทุนว่ามาจากหนี้สินหรือส่วนของเจ้าของ ว่ามีมากน้อยเพียงใด

อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt/Equity Ratio) (เท่า) = หนี้สินรวม (Total Debt) /ส่วนของเจ้าของ (Equity)

ยิ่งต่ำยิ่งดี แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในด้านเจ้าหนี้และเจ้าของกิจการ ถ้าอัตราส่วนสูง

แสดงว่า กิจการมีความเสี่ยงจากการกู้ยืมเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการ

 

 

4.2 ความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย (Interest Coverage)

   {กำไรสุทธิ (NP) + ภาษีเงินได้ (Tax) - ดอกเบี้ยจ่าย(Interest)}

                                ดอกเบี้ยจ่าย (Interest)

 

เป็นการวัดความสามารถของธุรกิจในการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้

ผลคำนวณออกมามีค่าสูง แสดงว่าธุรกิจมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยสูง

 

4.3 อัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout)

     เงินปันผลต่อหุ้น (Dividend /share)

          กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)

 

อัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout) = 

เงินปันผลต่อหุ้น (Dividend /share) /กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)

แสดงถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผลของธุรกิจ

อัตราส่วนที่กล่าวมาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์หลักทรัพย์

ด้วยปัจจัยพื้นฐาน เพื่อท่านจะได้พิจารณางบการเงินได้ในระดับหนึ่ง

 

สัญญาณเตือนภัยจากการวิเคราะห์งบการเงิน

1. ขาดทุนมากๆ และติดต่อกันหลายปี

2. ระยะเวลาการเก็บหนี้นานขึ้น

3. อัตราหนี้สินต่อส่วนของเจ้าของสูงขึ้นเร็วมาก

4. สินค้าคงคลังสูงมากผิดปกติ

5. ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น

6. ยอดขายสูงขึ้น แต่กำไรลดลง

7. หนี้สูญเพิ่มขึ้น

8. รายงานผู้สอบบัญชีผิดปกติ เปลี่ยนผู้สอบบัญชีใหม่

9. ขายสินทรัพย์ของบริษัท เพื่อสร้างกำไรให้เข้าเป้าในระยะสั้น

 

 
 
 
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้